ภาพถ่าย “หมอกธุมเกตุ” หนึ่งในสิ่งที่อยู่เหนือวิทยาศาสตร์จะไปถึงได้ในวันนี้ at iURBAN
ไม่แน่ใจว่านักวิทยาศาสตร์สามารถเข้าเรื่องของ “จิต” ได้มากแค่ไหนแล้ว แต่ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาเรื่องของจิตมีพลังต่อหลายเหตุการณ์ไม่น้อย ไม่ใช่จิตในมุมผีหลอก แต่หมายถึงพลังอีกมิติหนึ่งของมนุษย์และสิ่งมีชีวิต พลังที่จะทำให้มนุษย์สามารถทำอะไรได้เหนือศักยภาพปกติของตนเอง หรือจะหมดแรงได้แม้กินข้าวอิ่มนอนหลับพอก็ตาม
สิ่งหนึ่งที่ทำให้คิดว่าเรื่องของจิต (อาจ) มีส่วนเกี่ยวข้องได้ คือ หมอกธุมเกตุ
ในวันนี้ปีที่แล้ว (2559) ตอนผมกับภรรยาได้ไปรับเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ท้องสนามหลวงจากศิริราชมาประทับที่พระบรมมหาราชวัง สภาวะอากาศกรุงเทพไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการเกิดหมอกได้เลย แต่ว่าวันนั้นประเทศไทยก็ได้มีหมอกธุมเกตุเกิดขึ้นในกรุงเทพ
“วิเคราะห์ตามหลักวิทยาศาสตร์จากที่ผมพอรู้มาคร่าวๆ หมอกน่าจะเกิดตอนความชื้นสัมพัทธ์สูง (น่าจะเกือบๆ 100%) ลมสงบ และฟ้าโปร่ง
ณ เวลาที่เกิดหมอก ลมประมาณ 7.4 km/h ยังถือว่าลมสงบ เงื่อนไขนี้โอเค แต่ท้องฟ้าระบุว่ามีเมฆมาก ซึ่งไม่น่าเกิดหมอก ที่สำคัญความชื้นสัมพัทธ์ช่วงนั้นน่าจะอยู่ที่ประมาณ 70% เอง อย่างมากก็ไม่เกิน 85% ของช่วง 7 โมงเช้า และถึงจะบอกว่าเข้าหน้าหนาว แต่กรุงเทพตอนนั้นก็ไม่ได้หนาวอะไรเลย ก็อากาศปกติของกรุงเทพนั่นแหละ มี 3 ฤดู ไม่ค่อยร้อน/ร้อน/ร้อนมาก
ผมว่าการเกิดหมอกในเวลานั้นมันมันไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลยครับ มันต้องมีเงื่อนไขบางอย่างที่เฉพาะเวลา และเฉพาะสถานที่จริงๆ ถึงจะเกิดได้”
– คำอธิบายจาก คุณสมาชิกหมายเลข 2235090 ใน Pantip.com
ปรากฏการณ์"หมอกธุมเกตุ" เมื่อคืน จนตอนนี้ยังหาทางอธิบายเป็นวิทยาศาสตร์ไม่ได้ ค่า rH ก็ปกติ ไม่รู้ hydrometeor มาจากไหนปกคลุมสถานที่ต่างๆ
— ѴѺҎ (@MrVop) October 14, 2016
@MrVop ผู้เชี่ยวชาญด้านภัยธรรมชาติอีกท่านหนึ่งบน Twitter
. . .
ในวันนี้ 13 ตุลาคม 2560 ห่างจากวันนั้นมาหนึ่งปี กรุงเทพก็ยังมีหมอกเกิดขึ้นทั่วฟ้าอีกหนึ่งวันโดยไม่ทราบสาเหตุ แม้ยังไม่ได้รับการคอนเฟิร์มว่าเป็นหมอกธุมเกตุเหมือนปีที่แล้ว แต่ก็สามารถทำให้เรานึกถึงวันนี้เมื่อปีที่แล้วได้
วันนี้เราจึงได้นำภาพจากคุณ Bigg Sirirojwong ผู้ที่ถ่ายภาพหมอกธุมเกตุในปีที่แล้ว มาวางเปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆ ซึ่งภาพทั้งหมดด้านล่างนี้ เป็นภาพจริงไม่ได้เกิดขึ้นจากการตัดต่อ ถ้าวางแปะกันโดยตรงจะไม่ตรงพอดีเป๊ะ มีเหลื่อมจากจุดตั้งกล้องคงละวันกัน
เป็นสภาวะของหมอกธุมเกตุ หมอกที่เกิดขึ้นในวันที่มีความโศกเศร้าของแผ่นดิน
คุณสามารถดูรูปสีปกติได้โดยการกดปุ่ม “ปิดโหมดสีเทา” ที่มุมขวาบน | ส่วนท่านที่ต้องการดาวโหลดภาพเหล่านี้เป็นไฟล์ใหญ่ สามารถดาวโหลดได้จากกระทู้ของคุณ Bigg Sirirojwong ที่นี่ในความคิดเห็นที่ 2
ในวันนั้น 13 ตุลาคม 2559 วันที่ทุกคนต้องอยู่ในสภาพโศกเศร้าเสียใจทั่วกันทั้งประเทศ ไม่ต่างจากคนในกรุงเทพ แต่ส่วนหนึ่งที่กรุงเทพเป็นพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น ข่าวที่ทำให้ทุกคนหัวใจแตกสลายและไม่อยากได้ยิน ก็ทำให้ความโศกเศร้าเข้ามาเกาะกุมหัวใจ
ตามที่เราพูดกันถึงเรื่องของจิต เราพอจะรู้สึกได้ถึงจิตที่ดีใจ จิตที่โกรธ จิตที่โศกเศร้าจากคนใกล้ตัวได้อย่างผิวๆ แต่ในวันนี้หากพลังของจิตมีจริง ก็คงจะรวมตัวกันเป็นจิตที่โศกเศร้าก้อนใหญ่มหึมา ผมคิดว่าจิตมีพลังมากกว่าที่คิด เพียงแต่ศาสตร์ของมนุษย์ที่นำการศึกษาโดยฝั่งตะวันตกนั้นอาจจะยังไม่ถึงขั้นที่จะเข้าใจและควบคุมพลังงานมิตินี้ได้ในรูปแบบของวิทยาศาสตร์
เคยอ่านเจอว่าหมอกธุมเกตุมาครั้งล่าสุดตอนที่รัชกาลที่ ๕ ทรงเสด็จสวรรคต ทุกคนโศกเศร้าไม่อยากทำอะไร แม้แต่คนเป็นโจรไม่มีใจจะปล้นขโมยในช่วงนั้น เป็นช่วงที่แทบไม่มีคดีลักทรัพย์ ซึ่งครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ประเทศเราต้องมีหมอกธุมเกตุเกิดขึ้น
ปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเห็นมาหลายชั่วชีวิตคน
มาเกิดขึ้นอีกครั้งในยุคนี้
ณ วันที่ทุกคนหัวใจสลายร่วมกัน
ด้วยเหตุผลเดียว
เพราะพระองค์ทรงเป็นหัวใจ
ของประชาชนทุกคนอย่างแท้จริง
. . .
The post ภาพถ่าย “หมอกธุมเกตุ” หนึ่งในสิ่งที่อยู่เหนือวิทยาศาสตร์จะไปถึงได้ในวันนี้ appeared first on iUrban.
Credit: ภาพถ่าย “หมอกธุมเกตุ” หนึ่งในสิ่งที่อยู่เหนือวิทยาศาสตร์จะไปถึงได้ในวันนี้ Web: iURBAN Fanpage: facebook.com/iURBAN.in.th
Comments
Post a Comment