รีวิวขั้นตอนการทำ Visa Italy 2019 ด้วยตัวเอง วีซ่าท่องเที่ยว เชงเก้น
เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสได้ทำการยื่นคำร้องขอวีซ่าประเทศอิตาลี จึงอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ของการยื่นขอวีซ่าอิตาลีในปี 2019 ให้เพื่อนๆ ที่อยากเดินทางไปท่องเที่ยวอิตาลี หรือประเทศอื่นในกลุ่มเชงเก้น (ยุโรป) เพื่อเป็นไกด์ไลน์สำหรับคนที่ต้องการทำวีซ่าด้วยตัวเอง
ในการทำวีซ่าอิตาลีปี 2019 นี้จะมีขั้นตอนอะไรที่ update จากปีก่อนๆ หรือไม่ เอกสารที่ต้องเตรียมมีอะไรบ้าง มาดูกัน
ทำวีซ่าเอง ยากหรือไม่ ?
การทำวีซ่าด้วยตัวเองนั้น ไม่ยาก สำหรับเราเป็นการทำวีซ่าไปยุโรปครั้งแรกเช่นกัน ลองศึกษาหาข้อมูลอยู่ไม่นาน ก็เริ่มทำเอกสารทั้งหมด และไปยื่นวีซ่าด้วยตัวเอง ได้รับการพิจารณาและอนุมัติวีซ่าในเวลาอันรวดเร็ว
ทำวีซ่าให้ผ่าน ต้องมีเงินเก็บเท่าไหร่ ?
การทำวีซ่าให้ผ่านนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับการมีเงินเก็บมากเพียงอย่างเดียว เราไม่จำเป็นต้องมีเงินเก็บมาก ถึง 7-8 หลักก็ได้ เพียงแต่จุดประสงค์ในการทำวีซ่าของเรานั้นต้องชัดเจน อย่างเช่น เราจะทำวีซ่าเพื่อไปท่องเที่ยว เราจะต้องแสดงเอกสาร และแพลนทริปให้ชัดเจน ว่าแต่ละวันเราไปเที่ยวที่ไหน เมืองอะไร และต้องมีเอกสารการจองตั๋วเครื่องบินและการจองโรงแรมให้ cover การไปพำนักที่ยุโรป
ทางสถานทูตจะพิจารณาทั้งการเงินประกอบกับการทำงาน เงินในบัญชีเรานั้นมีเงินมากพอที่จะไปเที่ยวตามแพลนที่ว่าหรือไม่ เราทำงานอะไร สำคัญแค่ไหน เราแต่งงานหรือไม่ อย่างเช่น ถ้าเราเปิดบริษัทอยู่ที่เมืองไทย มีรายได้เข้าบัญชีทุกเดือน ก็จะผ่านไม่ยาก เพราะเราก็ต้องกลับมาทำงานต่อ ไม่โรบินฮู้ด หากทุกอย่างดูสมเหตุสมผลแล้ว ดูมีจุดประสงค์ชัดว่าจะไปเที่ยวจริงๆ ทางสถานทูตก็จะพิจารณาให้ผ่านได้ไม่ยาก
วีซ่าท่องเที่ยว (ประเภท C)
การทำวีซ่ามีหลายประเภทเช่น ทำเพื่อไปเยี่ยมญาติ ไปทำงาน ไปเรียน แต่สำหรับคนที่ทำเพื่อไปเที่ยวให้จำว่าวีซ่าท่องเที่ยวนั้นคือวีซ่าประเภท C หรือวีซ่าพำนักระยะสั้น (ระยะเวลาในการพำนักสูงสุด 90 วัน)
ขั้นตอนการทำวีซ่า อิตาลี
สำหรับคนที่อยากไปเที่ยวอิตาลี ประเทศที่เรียกว่ามีครบทั้งศิลปะ ประวัติศาสตร์ ความสวยงามทางธรรมชาติ ช้อปปิ้ง และความโรแมนติค ไปที่เดียวเที่ยวได้หลากหลายรูปแบบ เป็นประเทศในฝันของใครหลายๆ คน วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ มาเริ่มก้าวแรกของการไปเที่ยวอิตาลีด้วยการยื่นขอวีซ่ากัน
1. เตรียมเอกสาร
ขั้นตอนจะนี้ถือว่ายากที่สุดของการทำวีซ่าแล้วก็ได้ แต่หากการเตรียมเอกสารการของเราสมบูรณ์ขั้นตอนต่อไปก็ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง
เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการยื่นวีซ่าอิตาลี มีดังนี้
1.1 ใบสมัคร หรือ แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่า เราสามารถเข้าไปกรอกแบบฟอร์มออนไลน์ได้ที่นี่ https://www.vfsvisaonline.com/OnlineVaf-Italy ก่อนการเข้าไปกรอกใบสมัครจะต้องทำการสมัครสมาชิก ให้เตรียมอีเมลสำหรับสมัครสมาชิกเอาไว้ เพราะการอัพเดตสถานะและเลขที่ Reference ต่างๆ จะถูกส่งมาทางอีเมลนี้
ใบสมัครจะมีทั้งหมด 6 หน้า ต้องกรอกข้อมูลครบถ้วนตามกำหนด หากกรอกใบสมัครนี้เสร็จแล้ว เมื่อ กด Submit ใบสมัครจะมีอายุอยู่ได้เพียง 7 วัน (หากเกินน่าจะต้องกรอกแบบฟอร์มใหม่)
ทริค ใบสมัครสามารถ save ไว้ได้ เช่นกรอกถึงหน้า 3 แล้วต้องการ save ก่อน ก็สามารถ save และ Login เข้าไปกรอกใหม่ได้ โดยใส่เลขที่ Ref. ซึ่งจะถูกส่งไปยังอีเมล แนะนำให้กด Submit เมื่อเตรียมเอกสารครบและได้วันไปยื่นที่แน่นอนแล้ว
หากใครไม่สะดวกกรอกแบบออนไลน์สามารถ Download ใบสมัครมากรอกด้วยลายมือได้ที่ลิงก์นี้ ดาวน์โหลด
1.2 รูปถ่าย ใช้รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว พื้นหลังสีขาว 2 รูป หน้าตรง ห้ามใส่แว่น เปิดหู และเป็นรูปที่ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน หากจะไปถ่ายให้แจ้งทางร้านถ่ายภาพว่าถ่ายไปทำวีซ่าอิตาลี หลายร้านจะรู้และสามารถจัดการให้ได้
1.3 หนังสือเดินทาง (Passport) หนังสือเดินทางจะต้องมีหน้าว่างเหลืออย่างน้อย 2 หน้า มีอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือน และขาออกจากอิตาลีหนังสือเดินทางต้องเหลือไม่ต่ำกว่า 90 วัน ถ้าใครเหลือไม่ถึง 6 เดือนแนะนำให้ไปทำใหม่เลย เพื่อความชัวร์
1.4 สำเนาการจองตั๋วเครื่องบิน การจองตั๋วก่อนค่อนข้างเป็นปัญหาในการทำเอกสารยื่นวีซ่า เราจึงต้องใช้วิธีการจองที่จะทำให้ไม่เสียเงิน ให้เราทำการจองตั๋วเครื่องบิน และ Hold เอาไว้ยังไม่ต้องชำระเงิน (กรณีจองแบบ Non-Refundable) สำหรับการจองตั๋ว Online นั้นสามารถ Hold ไว้ได้ประมาณ 24 ชั่วโมงแล้วแต่สายการบิน เมื่อจองเสร็จให้ปริ้นใบ Confirmation เพื่อเป็นเอกสารประกอบการยื่น หากตั๋วใกล้เต็มอาจจะต้องจองใหม่เรื่อยๆ จนกว่าวีซ่าจะได้รับอนุมัติ
ทริค การจองตั๋วแนะนำให้จองก่อนวันที่จะไปยื่นวีซ่า
1.5 หลักฐานการจองโรงแรม หลักฐานการจองโรงแรมทั้งหมดตั้งแต่วันที่ถึงอิตาลี จนวันสุดท้ายที่พำนักอยู่ เลือกจองโรงแรมที่สามารถจ่ายที่หลังหรือขอคืนเงินได้ (อย่าเพิ่งชำระเงิน จนกว่าวีซ่าจะได้รับการอนุมัติ) โดยในใบ Confirmation จะต้องใส่ชื่อของเราเป็นชื่อผู้เข้าพักด้วย และพักกับใครก็ต้องใส่ชื่อเข้าไปด้วย
1.6 ตารางการเดินทาง (Plan Trip) เราจะต้องทำตารางการเดินทางของเราว่าในระหว่างที่พำนักจะอยู่ที่ไหน มีแพลนไปเที่ยวที่ไหน ใช้ยานพาหนะอะไร เดินทางเข้าเมืองไหนบ้าง การทำแพลนทริปนั้นยังมีประโยชน์ต่อการเที่ยวจริงๆ ของเรามาก ถ้าเราเที่ยวตามแพลนทริป รู้รูทของเส้นรถไฟก่อนแล้ว พอไปถึงจริงๆ ก็จะเที่ยวได้สบายไม่เสียเวลา
ตัวอย่างตารางการเดินทางที่เราทำเองก็จะประมาณนี้ ไปทั้งหมด 4 เมือง เข้า-ออก แต่ละเมืองด้วยรถไฟ เพื่อนๆ สามารถเอาไป adapt เป็นของตัวเองได้
1.7 หลักฐานทางการเงิน ใช้ Statement ย้อนหลัง 3 เดือน บัญชีออมทรัพย์ หรือ กระแสรายวันเท่านั้น ประเภทอื่นไม่รับยื่นนะ การเงินต้องไม่ติดลบ และมีรายการเดินบัญชีล่าสุดไม่เกิน 7 วัน จะใช้สำเนาจากสมุดบัญชีหรือ Statement Online ก็ได้ (ไม่ต้องไปขอที่ธนาคารแล้ว)
ทริค แนะนำให้ปริ้น Statement Online และเลือกภาษาเป็นภาษาอังกฤษ
1.8 หนังสือรับรองการทำงาน
สำหรับลูกจ้าง หนังสือรับรองการทำงานภาษาอังกฤษ (ตัวจริงเท่านั้น) ที่ขอจากบริษัทไม่เกิน 30 วัน โดยมีชื่อ ตำแหน่ง เงินเดือน และจำนวนวันที่ได้รับอนุมัติให้ลาหยุด พร้อมตราประทับจากบริษัท
สำหรับเจ้าของกิจการ หนังสือรับรองบริษัท อายุไม่เกิน 90 วัน และใบจดทะเบียนการค้า เอกสารทุกอย่างต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ และแนบเอกสารภาษาไทยไปด้วย 1 ชุด
ทริค สามารถแปลเองและเซ็นต์รับรองเองได้ แต่ถ้าใครไม่ถนัดอังกฤษก็แนะนำให้จ้างแปล ราคาใบละ 250-300 บาท (ลองเสิร์ชหาในกูเกิ้ล) เราก็จ้างแปลเหมือนกันเพราะว่าหนังสือรับรองมีศัพท์ราชการเยอะและยาวมากกลัวแปลผิดและต้องใช้เวลานาน
ตัวอย่างการแปล ใบจดทะเบียนการค้าอาชีพอิสระ เขียนอธิบายงานที่ทำ แนบเอกสารรายได้บางส่วน และรูปถ่ายประกอบได้เลยว่าทำอะไร
1.9 ใบเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล ทะเบียนสมรส (ถ้ามี) หากใครเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุลเพราะแต่งงานให้แนบเอกสารเหล่านี้ด้วย เอกสารภาษาไทย 1 ชุด และเอกสารภาษาอังกฤษ 1 ชุด อันนี้แปลง่ายหน่อย แปลเองก็ได้ เรามีตัวอย่างการแปลมาให้เป็นไกด์ไลน์ (แต่ทั้งหมดนี้เราจ้างแปลนะ)
1.10 ประกันการเดินทาง จะต้องมีเอกสารกรมธรรม์ที่ประทับตราจากบริษัทประกัน นั่นก็คือเราต้องซื้อประกันการเดินทางก่อน ถ้าหากวีซ่าไม่ผ่าน สถานทูตจะออกเอกสารมาให้ และเราสามารถนำเอกสารไปขอคืนเงินได้ โดยต้องเลือกแผนประกันที่วงเงินคุ้มครองขั้นต่ำ 1,500,000 บาท หรือ 30,000 Eur โดยสามารถเช็คบริษัทประกันที่ใช้ยื่นได้ที่นี่ ส่วนเราทำของ Allianz Global 10 วัน คนละประมาณ 600 กว่าบาท
1.11 Passport หนังสือเดินทางฉบับจริง และถ่ายสำเนา 2 ใบ
ครบแล้ว! เข้าสู่ขั้นตอนการนัดหมายยื่น Visa ได้เลย
2. นัดหมายเพื่อยื่นคำร้องขอวีซ่า
การทำนัดหมายนั้นทำก่อนเดินทางได้ ไม่เกิน 90 วัน นับจากวันเดินทาง สามารถทำการนัดหมายออนไลน์ที่นี่ https://online.vfsglobal.com/GlobalAppointment/ เมื่อเข้าไปแล้วจะสามารถดูได้ว่า วันนัดหมายที่ว่างเร็วสุดคือวันอะไร? เมื่อทำนัดหมายเสร็จแล้วระบบจะส่งอีเมลแจ้งเลขที่ Reference วัน-เวลา ที่นัดหมาย ให้เราปริ้นใบนัดออกมาด้วย แล้วก็เตรียมเอกสารทั้งหมดไปตามนัดได้เลย
เมื่อวันนัดยื่นมาถึง..~
3. มายื่น Visa ตามนัดหมาย
ที่ศูนย์ยื่นคำร้องขอวีซ่าประเทศอิตาลี
ศูนย์ยื่นวีซ่าตั้งอยู่ที่จามุรีย์ สแควร์ ชั้น 4 ขึ้นไปจะเจอเลย VFS Global ที่นี่ใช้ยื่นวีซ่าหลายประเทศอยู่เหมือนกัน ออสเตรีย โครเอเชีย เช็ก สวิสเซอร์แลนด์ ก่อนเข้าเจ้าหน้าที่จะขอดูใบนัด (ปริ้นจากอีเมล) ตรวจตัว และให้ปิดเสียงโทรศัพท์ จะต้องเตรียมเอกสารและเงินให้พร้อม สำหรับค่าเสียหายการทำวีซ่ารายละเอียดดังนี้
- ค่าวีซ่า 2,280 บาท
- ค่าบริการ 500 บาท
- ค่าส่ง EMS 220 บาท (กรณีรับเล่มเองน่าจะไม่เสีย แต่เราเลือกส่ง EMS กลับบ้าน)
- รวมคนละ 3,000 บาท
ของเราจะมีค่าส่ง SMS อัพเดตสถานะด้วย ตรงนี้จะมีให้เลือกตอนที่กรอกแบบฟอร์ม เลยเสียเพิ่มอีก 70 บาท แต่ก็ดีจะมี SMS รายงานสถานะตลอดว่าเอกสารเราอยู่ตรงไหนแล้ว
เมื่อเข้าไปด้านก็จะมีขั้นตอนประมาณนี้ (ด้านในห้ามถ่ายภาพนะ)
- เดินไปติดต่อเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์แจ้งว่ามายื่นวีซ่าตามนัดหมาย
- เจ้าหน้าที่จะขอดูใบนัด และ Passport และให้ไปนั่งรอหน้าโซนวีซ่าอิตาลี
- เจ้าหน้าที่เรียกชื่อและขอตรวจสอบเอกสาร
- เจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารประมาณ 10 นาที (ถ้าเอกสารมีปัญหาก็จะแจ้งตรงนั้นเลย)
- เจ้าหน้าที่เรียกไปสแกนลายนิ้วมือ (สำหรับใครที่สแกนลายนิ้วมือแล้วจะอยู่ในระบบได้ 5 ปี)
- ชำระเงิน เสร็จแล้ว! กลับบ้านไปรอผลได้เลย
ขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 20 นาที
จากนั้นก็รอ Passport ส่งกลับมาที่บ้าน ของเราใช้เวลาทั้งหมด 6 วันรวมวันหยุด ก็ได้รับเล่มคืนและได้อนุมัติมาเรียบร้อย
DAY1 – ไปยื่น
DAY2- เอกสารถูกส่งไปสถานทูต
DAY3-4 ติดวันหยุด (ไม่ทำการ)
DAY5 น่าจะอนุมัติวันนี้ และ Passport ถูกส่งกลับมาที่บ้าน
DAY6 Passpost ถึงบ้าน และได้รับอนุมัติเรียบร้อย
ขอให้ทุกคนโชคดี ได้วีซ่าไปเที่ยวอิตาลีกันนะ
Via: รีวิวขั้นตอนการทำ Visa Italy 2019 ด้วยตัวเอง วีซ่าท่องเที่ยว เชงเก้น
Comments
Post a Comment