รีวิว EPSON L1455 ปริ้นเตอร์ติดแท็งค์จากโรงงาน มัลติฟังก์ชัน A3 สเปคโหด at iURBAN
ในวันนี้ปริ้นเตอร์เป็นอุปกรณ์สำนักงานพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับทุกบริษัท ปริ้นเตอร์ที่ดีสามารถเพิ่ม productivity กับการทำงานพิมพ์เอกสารและช่วยลดเวลาจัดการกับเรื่องวุ่นวายได้เยอะ
ถ้าบริษัทไหนจะหาปริ้นเตอร์เข้าออฟฟิศ ปัจจุบันมีตัวเลือกฟังก์ชันที่ช่วยเหลือด้านความสะดวกอยู่อีกเยอะ เช่น Multi-Function ที่ไม่ต้องแยก Scanner แถมยังใช้ Copy ได้ หรือฟังก์ชั่น WiFi Printer ที่ทำให้การเชื่อมต่อปริ้นเตอร์ง่ายขึ้นอีกมาก เหล่านี้ iUrban เคยได้แนะนำ รู้ก่อนเลือก Printer สำหรับออฟฟิศ SME ไว้แล้ว ถ้าจะถามว่าปริ้นเตอร์ยี่ห้อไหนดีอาจจะเถียงกันเป็นวัน แต่ถ้าถามว่าเครื่องไหนเหมาะกับการใช้งานของเรา น่าจะเหมาะสมกว่า ซึ่งวันนี้เราจะมารีวิวปริ้นเตอร์สำหรับออฟฟิศ SME จากยี่ห้อ EPSON กันในรุ่น EPSON L1455
ปริ้นเตอร์ EPSON L1455
รุ่นนี้เป็น Inkjet Printer สำหรับออฟฟิศที่มีการรองรับ กระดาษขนาด A3 ได้ มาในรูปแบบ Multi-function ที่สามารถ Print-Scan-Copy-Fax ได้ เครื่องนีเป็น WiFi Printer รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย มีขนาดที่ใหญ่เอาเรื่องซึ่งที่ใหญ่นั่นเพราะสามารถรองรับ ฟีดกระดาษอัตโนมัติ 2 ถาด (ถาดละ 250 แผ่น) ตัวนี้แทบจะทำหน้าที่เหมือนเครื่องถ่ายเอกสารขนาดย่อม เพราะช่องฟีดเอกสารอัตโนมัติสำหรับ copy ด้านบนเครื่องสามารถรองรับการ copy ใส่ต้นฉบับรอบเดียว 35 แผ่น! จุดเด่นที่สุดคือการติดตั้งหมึกแบบเติมได้ หรือ มี Ink Tank จากโรงงาน ผลิตด้วยคุณภาพระดับ EPSON ที่ประหยัดมากขึ้น เพียงหมึกที่ติดมากับการซื้อปริ้นเตอร์ก็สามารถพิมพ์ได้มากถึง 6,000 แผ่นสำหรับขาวดำ และ 6,500 แผ่นสำหรับพิมพ์สี การสั่งงานง่ายเป็น หน้าจอทัชสกรีนผสมปุ่มใช้งานบ่อย ที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย
ปริ้นเตอร์ติดแท็งค์จากโรงงาน EPSON
การเลือกซื้อปริ้นเตอร์สิ่งสำคัญคือการดูราคาหมึกด้วย บางเครื่องค่าหมึกแพงกว่าค่าปริ้นเตอร์เสียอีก ทำให้หลายคนไปซื้อแบบปริ้นเตอร์ที่ร้านโมดิฟายมาให้สามารถเติมหมึกแบ
บแท็งค์ได้ (Ink Tank) ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ผลิตปริ้นเตอร์ก็ยังไม่ได้ผลิตหมึกสำหรับเติม จึงต้องซื้อหมึกที่ไม่ได้รับรองคุณภาพจากผู้ผลิต อาจจะราคาถูกกว่าซื้อตลับหมึก แต่ก่อให้เกิดปัญหาหลายอย่าง เช่น การอุดตันของหัวพิมพ์อย่างรวดเร็ว หรือแม้แต่คุณภาพของงานพิมพ์ อีกทั้งระบบการจ่ายสีไปสู่หัวพิมพ์ก็ไม่ได้ออกแบบจากผู้ผลิต
ช่องเติมหมึกที่เปิดมาก็เติมได้เลย มองด้วยตาเปล่าก็รู้ระดับหมึกคงเหลือโดยไม่ต้องเข้าระบบ
ซึ่งพอ EPSON มาทำปริ้นเตอร์ที่เติมหมึกด้วยตัวเองก็จัดเป็นข้อดีที่สนใจเรื่องความประหยัดของลูกค้า โดย EPSON ได้เคลมไว้ว่า EPSON L1455 สามารถช่วยให้ประหยัดมากขึ้น เมื่อเทียบกับปริ้นเตอร์คู่แข่งในตลาด การเติมสีแบ่งแม่สีออกจากกัน โดยหมึกดำ 140ml ราคา 590 บาท สามารถปริ้นได้ถึง 6,000 แผ่น ส่วนหมึกสีราคา 250 บาทพิมพ์ได้ 6,500 แผ่น จึงจัดว่าคุ้มค่ามาก
และการเติมหมึกเพียงแค่ดึงฝาจุกยางออก ก็สามารถเทหมึกเติมเข้าไปได้เลย ง่ายกว่าการเปลี่ยนตลับหมึกอีก
เทคโนโลยีการพิมพ์ขนาด A3
เทคโนโลยีงานพิมพ์ด้วยปริ้นเตอร์ของ EPSON L1455 นั้นใช้เทคโนโลยีของหัวพิมพ์ที่เรียกว่า “Precisioncore” ซึ่งเป็นเทคโนโลยีหัวพิมพ์ที่นำมาใช้กับปริ้นเตอร์รุ่นกลาง ให้งานพิมพ์ แห้งเร็วยิ่งขึ้น การซึมลงบนกระดาษ ซึมซับได้ดียิ่งขึ้น ทำให้งานพิมพ์ไม่หงิกงอ หรือชุ่มน้ำหมึก ไม่ว่าจะพิมพ์งานภาพเต็ม A4 หรือ A3 งานพิมพ์ก็คมสวยชัดทุกแผ่น และไม่ชุ่มหมึก
นอกจากเทคโนโลยีของหัวพิมพ์ Precisioncore ที่เป็นซิกเนเจอร์เทคโนโลยีของ Epson แล้ว เครื่องปริ้นเตอร์ Epson L1455 ยังสามารถ พิมพ์ 2 หน้าอัตโนมัติ (2 side/double side) ดึงกระดาษกลับเข้าไปปริ้นอีกหน้าได้ รวมถึงความใหญ่ของปริ้นเตอร์ที่สามารถปริ้นได้ที่ขนาด A3 ที่ความละเอียด 4,800 x 1,200 dpi (dot per inch) คมชัดใช้ระดับปริ้นรูปถ่ายได้ ตอนปริ้นงานทั่วไปก็จะเร็วมาก พอสั่งโหมดปริ้นแบบคุณภาพสูงก็จะใช้เวลานานขึ้นตามปกติ
ช่วยให้คุณทำงานไว ง่าย และสะดวกมากขึ้น
WiFi Printer ไร้สายก็ปริ้นได้
สัญลักษณ์ WiFi และ Ethernet แสดงให้เห็นว่าเชื่อมได้ทั้งแบบไร้สายและ LAN
ปริ้นเตอร์ออฟฟิศ มีอุปสรรคมากอย่างหนึ่งคือเรื่องของการการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้ากับปริ้นเตอร์ โดยเฉพาะกับเน็ตเวิร์คที่ค่อนข้างซับซ้อนของบางออฟฟิศ ดังนั้นการนำเทคโนโลยี WiFi Printer เข้ามาใช้งานจึงสามารถช่วยเพิ่ม productivity ได้อย่างมาก หลังจากการเพิ่ม printer แล้วก็สามารถพิมพ์ได้ทันที และยังพิมพ์จากอุปกรณ์มือถือหรือแท็บเล็ตได้ด้วย
Automatic Document Feeder
เปิดมาแงะกระดาษออกจาก ADF ก็ง่ายมาก
ส่วนเจ้า ADF (Automatic Document Feeder) หรือถาดป้อนกระดาษอัตโนมัติ ทำหน้าที่ดึงกระดาษเข้าไป Scan/Copy อัตโนมัติ เหมาะกับคนต้องการ Copy เอกสารทีละหลายหน้า เช่น Copy เอกสารการประชุม ก็สามารถใส่ต้นฉบับเข้าไปเลยได้ทีเดียวถึง 35 แผ่น (จะ Copy กี่ชุดก็ได้นะ) ไม่ต้องมาเปิดฝาสแกนเนอร์ทีละหน้า สะดวกกับคนทำงานออฟฟิศมาก แต่คนทำงานจริงก็จะรู้ว่า พวก ADF นี่ไม่ว่าเครื่องถ่ายเอกสารแพงแค่ไหนก็สามารถติดได้ด้วยความเผลอเช่น ใส่ไปหลายแผ่น ดัน! ลืมถอดแม็กเย็บมุมกระดาษอย่างนี้! หรือกระดาษที่ใส่เข้าไปยับพอดูดเข้าไปแล้วเข้าไปติดข้างในอย่างนี้! ไม่ว่าเครื่องไหนปัญหาพวกนี้ก็เกิดได้เกือบทุกวันทุกออฟฟิศ EPSON เล็งเห็นจึงทำช่องแงะกระดาษเจ้าปัญหาออกให้ง่ายๆ ขอบคุณมาก
ถาดกระดาษ 2 ช่อง
ถาดใส่กระดาษ 2 ช่อง (250แผ่น/ช่อง)
ถาดใส่กระดาษให้มาถึง 2 ช่อง รองรับการพิมพ์กระหน่ำทีเดียวแบบไม่ต้องเปลี่ยนถึงช่องละ 250 แผ่น x2 = 500 แผ่น ข้อดีระหว่างมีถาดใส่กระดาษ 2 ช่อง คือ
- สำหรับคนปริ้นสายรัว: เมื่อกระดาษหมดถาดที่ 1 เครื่องจะไปดูดกระดาษถาดที่ 2 ระหว่างนั้นเราสามารถเติมกระดาษถาดที่หมดได้ เพื่อการทำงานต่อเนื่องอย่างไม่ติดขัด ปกติเวลากระดาษขาด ถ้ามีถาดกระดาษอันเดียวปริ้นเตอร์ทุกรุ่นจะใช้เวลางมหาและแจ้งคุณว่า “ใส่กระดาษให้ชั้นสิ” อยู่พักนึง ซึ่งพอมี 2 ถาดเปลี่ยนกระสุนแบบนี้ สายรัวจะรัวได้ต่อเนื่อง แม้ปริ้นหลายพันแผ่นก็สบายเลยทีนี้
- สำหรับคนปริ้นสายสลับ: สำหรับคนปริ้นทั้ง A4 และ A3 บ่อยๆ ถาดนึงใส่ A4 ถาดนึงใส่ A3 ก็สามารถเลือกจากคอมพิวเตอร์เมื่อปริ้นเตอร์ได้เลย โดยไม่ต้องมาย้ายกระดาษออก-ใส่กระดาษใหม่ ซึ่งมันเป็นกิจกรรมที่แค่คิดบางทีก็ไม่อยากปริ้นแล้ว
ช่องป้อนกระดาษพิเศษและแก้กระดาษติด
ช่องด้านหลัง พลักไปเป็นที่ใส่กระดาษ ปริ้นกระดาษขนาดแปลกๆ 1-2 แผ่น ใส่ feeder ข้างหลังได้เลย
ความสะดวกยังไม่จบเพียงเท่านั้น เจ้า EPSON L1455 นี่ไม่ใช่แค่มีเทคโนโลยีการพิมพ์ที่ดี แต่ยังออกแบบ UX (User Experience) ได้ดีเยี่ยมถึงขั้นต้องชม! ตามที่เห็นว่ามี 2 ถาดแล้ว (สมมุติว่าใส่ A4+A3) ครั้นเราจะพิมพ์กระดาษแปลกๆ เช่น ซองจดหมาย ซึ่งเราไม่อยากไปแงะกระดาษ A4 ที่มีเพื่อนร่วมงานคนอื่นใช้อยู่ออกมา ไม่จำเป็น เราสามารถใส่กระดาษขนาดแปลกเหล่านี้ที่ช่อง feeder ด้านหลังได้เลย เอากับเขาสิ!
และก็แน่นอน ถ้าใช้หลายคนแบบออฟฟิศแล้วกระดาษติด (ประจำ) ก็แงะได้ง่ายนิดเดียว
หน้าจอทัชสกรีน
คุณสามารถสั่ง print / copy / scan / fax จากเครื่องได้เลยโดยไม่ต้องแตะคอมพิวเตอร์ (สำหรับหลายคน อาจจะชำนาญมากกว่าสั่งจากคอมพิวเตอร์เสียด้วยซ้ำ) และคุณยังสามารถเซฟคำสั่งที่คุณใช้งานบ่อยได้อีก
ไม่ต้องแตะคอมพิวเตอร์ก็ปริ้นได้
ถอดการ์ดจากกล้องมาปริ้นเลยก็ได้ รูเสียบการ์ด SD, SDXC, Memory Stick Duo ได้ (ไซส์นอกจากนั้นไปหา adaptor การ์ดเอาเอง) ตัวไม่ถึงร้อยครับ
ปุ่มง่าย! กดปุ่มเดียวจบ
ที่น่าประทับใจไม่แพ้ทัชสกรีน คือ แป้นกดนี่แหละ ทัชสกรีนบางทีก็ไม่ตอบโจทย์ ยากเกินไปสำหรับงานง่ายๆ เจ้า ปุ่มใหญ่ๆ ตรงนี้จะช่วยให้ปริ้นเตอร์ตัวนี้ทำหน้าที่ที่คนต้องการเยอะที่สุดเวลามีคนเดินมาหามัน นั่นคือ “ถ่ายเอกสาร” กดสีเทา->ถ่ายเอกสารขาวดำ กดสีฟ้า->ถ่ายเอกสารสี “คลิ้กเดียวจบเลย” ง่ายแค่นี้จริงๆ ยากกว่านี้เดี๋ยวต้องเรียกแอดมินมาสอนอีก
เรื่องการรับประกันของเจ้า EPSON L1455 ตัวนี้รับประกันภายใน 1 ปีครับ
สรุป ปริ้นเตอร์ดีๆ หลายตัวอาจทำหน้าที่เป็นกองหนุนซัพพอร์ตธุรกิจ แต่ปริ้นเตอร์ตัวนี้มาพร้อมสเปคระดับนายหมู่ทะลวงฟัน! สำหรับออฟฟิศที่ต้องปริ้นขนาดหนัก ถ้าจำเป็นต้องปริ้นกระดาษใหญ่ระดับ A3 ถ้าออฟฟิศคุณมีพื้นที่พอสำหรับก้นใหญ่ๆ ของมัน เลือกไปลุยกับมันเลยครับ จดชื่อไว้ EPSON L1455 ปริ้นเตอร์ A3 ติดแท็งค์จากโรงงานสายโหด!
The post รีวิว EPSON L1455 ปริ้นเตอร์ติดแท็งค์จากโรงงาน มัลติฟังก์ชัน A3 สเปคโหด appeared first on iUrban.
Credit: รีวิว EPSON L1455 ปริ้นเตอร์ติดแท็งค์จากโรงงาน มัลติฟังก์ชัน A3 สเปคโหด Web: iURBAN Fanpage: facebook.com/iURBAN.in.th
Comments
Post a Comment