โรคปอดอักเสบในเด็ก (PNEUMONIA) at iURBAN

โรคปอดอักเสบในเด็ก (PNEUMONIA)

-1

เป็นการอักเสบ/การติดเชื้อของเนื้อปอดชั้นใน  นอกจากนี้ยังรวมถึงหลอดลมและถุงลมอีกด้วย  โรคนี้เกิดได้กับคนทุกวัย ทำให้ความสามารถในการทำงานของการหายใจลดลง  และทำให้เกิดความเจ็บป่วยที่รุนแรง  บางครั้งอาจทำให้เกิดความพิการ  หรือทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้  โดยเฉพาะในเด็กเล็ก  ผู้สูงอายุ  ผู้ป่วยเรื้อรังและผู้ป่วยระยะสุดท้าย

สาเหตุของโรคเกิดได้จาก

  • การติดเชื้อไวรัส(ส่วนใหญ่) เช่น Respiratory Syncytial Virus (RSV), ไข้หวัดใหญ่
  • การติดเชื้อแบคทีเรีย  เช่น  เชื้อนิวโมคอคคัส (Streptococcus Pneumonia) (พบมากที่สุด) เชื้อฮิบ (Hib)
  • การติดเชื้อไวรัสและการติดเชื้อไวรัสร่วมกัน
  • การติดเชื้อรา / พยาธิ(ส่วนน้อย)
  • การแพ้ / การระคายเคืองต่อสารที่สูดดมเข้าไป

โรคปอดอักเสบในเด็ก  มีลักษณะอาการอย่างไร

อาการแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย  ขึ้นอยู่กับเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุ / อายุของผู้ป่วย / ความรุนแรงของโรค

อาการที่สำคัญ

  • ไข้  ไอ  หายใจหอบเหนื่อย
  • บางรายอาจมีอาการที่ไม่เฉพาะเจาะจง  ได้แก่ ไข้  อ่อนเพลีย  ปวดศีรษะ  กระสับกระส่าย  ร้องกวนและงอแง  บางรายจะมีหนาวสั่นได้
  • อาการในเด็กทารก  ส่วนมากจะไม่มีลักษณะเฉพาะ  อาจมีไข้หรือไม่มีไข้ก็ได้  อาจมีอาการซึม  อาเจียน  และไม่ยอมดูดนมหรือน้ำ

ผู้ป่วยเด็กที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคปอดอักเสบ

  • เด็กที่อายุน้อย
  • เด็กที่มีน้ำหนักตัวแรกเกิดน้อย  เด็กคลอดก่อนกำหนด
  • เด็กที่มีภาวะทุพโภชนาการ
  • เด็กที่มีโรคเรื้อรัง  เช่น  โรคหัวใจ  โรคปอด  โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง  โรคทางสมอง
  • เด็กที่มีภูมิต้านทานโรคต่ำหรืออยู่ในชุมชนแออัด  สุขาภิบาลไม่ดี
  • เด็กที่ได้รับควันบุหรี่จากบุคคลรอบข้าง
  • เด็กที่อยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็กที่มีเด็กมาก ๆ

การวินิจฉัยโรคปอดอักเสบในเด็ก

  • การซักถามประวัติอาการ
  • การตรวจร่างกายและตรวจระบบทางเดินหายใจ
  • การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
  • การตรวจเสมหะ  การเพาะเชื้อ
  • การตรวจน้ำเหลือง
  • การตรวจแอนติเจน  เช่น การตรวจ Rapid test และ RT-PCR for RSV และ INFLUENZA
  • การตรวจภาพรังสีทรวงอก (เอ็กซเรย์ปอด)
  • ส่องกล้องผ่านทางหลอดลม (เฉพาะผู้ป่วยบางราย)

การรักษาโรคปอดอักเสบในเด็ก

อาการไม่รุนแรง

  • ยาปฏิชีวนะรับประทาน (ในกรณีที่สงสัยว่าปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย)  และนัดผู้ป่วยมาดูเป็นระยะ ๆ ได้

อาการหนักต้องรับไว้ในโรงพยาบาล

  • ผู้ป่วยเด็กอายุน้อยกว่า 6 เดือน
  • ผู้ป่วยเด็กที่มีอาการหอบมาก  ต้องการออกซิเจน
  • ผู้ป่วยเด็กที่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน
  • ผู้ป่วยเด็กที่กินยาแล้วไม่ได้ผล
  • ผู้ป่วยเด็กที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ
  • พ่อแม่ไม่แน่ใจว่าจะดูแลเด็กได้ดีพอหรือไม่

การให้น้ำและอาหาร ช่วยลดความเหนียวของเสมหะ  ขับเสมหะได้ง่ายขึ้น  ลดการคั่งค้างของเสมหะที่อุดกั้นทางเดินหายใจในเด็ก  ทดแทนการสูญเสียน้ำในร่างกายจากภาวะไข้สูง  หายใจหอบเร็ว

การให้ออกซิเจน ให้ในผู้ป่วยเด็กที่มีอาการหอบมาก  เขียว  ซึม  กระวนกระวาย  ไม่ยอมกินนมและน้ำ  หายใจเร็วมากกว่า  70 ครั้งต่อนาที

ยาปฏิชีวนะ การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับ  อายุของผู้ป่วยเด็ก  ประวัติการสัมผัสติดเชื้อ  โอกาสที่เชื้อจะดื้อยา  รวมถึงข้อมูลจากการซักถามประวัติ  อาการอื่น ๆ ประกอบ

การรักษาอื่น ๆ  ได้แก่  ยาลดไข้  การเคาะปอด  เพื่อให้เสมหะออกได้  การให้ยาขยายหลอดลม

ทำอย่างไรจึงจะปกป้องลูกน้อยจากโรคปอดอักเสบได้

  • การเลี้ยงดูเด็กให้มีสุขภาพแข็งแรง
  • สร้างสุขอนามัยที่ดี
  • กินร้อน  ช้อนกลาง  ล้างมือ  ใสหน้ากากอนามัย
  • ควรเลี่ยงการพาเด็กเล็กไปในที่ชุมชนและสถานที่แออัดเป็นเวลานาน ๆ
  • หากบุตรหลานของท่านมีอาการไข้  ไอ  หอบ  ควรรีบมาพบแพทย์โดยเร็ว
  • พิจารณาเสริมภูมิคุ้มกันด้วยวัคซีนสำหรับป้องกันโรค
  • วัคซีนป้องกันเชื้อฮิบ (Hib vaccine)
  • วัคซีนป้องกันโรคไอพีดี (Pneumococcal vaccine)
  • วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza vaccine)

ด้วยความปรารถนาดี จาก รพ.วิภาวดี

The post โรคปอดอักเสบในเด็ก (PNEUMONIA) appeared first on iURBAN.

Credit: โรคปอดอักเสบในเด็ก (PNEUMONIA) Web: iURBAN Fanpage: facebook.com/iURBAN.in.th

Comments

Popular posts from this blog

19 ป้ายโฆษณา (Billboard) สุดครีเอทที่ออกแบบอย่างสร้างสรรค์จนต้องจำแบรนด์ได้ at iURBAN

สามารถตรวจสอบเครื่องสำอางค์เกาหลีว่าเป็นของแท้หรือไม่ผ่านทาง HiddenTag at iURBAN

DIY : อมยิ้มน้ำตาลคริสตัลแบบโฮมเมด at iURBAN